วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

สสก.3 จังหวัดระยอง จัดงานรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น และสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลอดการเผา โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่เกษตร ปี 2564

          สสก.3 จังหวัดระยอง จัดงานรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น และสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลอดการเผา โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่เกษตร ปี 2564 ณ  แปลงสาธิต ตำบลเกาะลอย อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี

          วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 นายปิยะ สมัครพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง เป็นประธานในการเปิดงานรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น และสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลอดการเผา โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่เกษตร ปี 2564 โดยมีนายกิตติพงษ์ งามจริง เกษตรจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวรายงานถึงจุดประสงค์การจัดงาน ณ  แปลงสาธิต ตำบลเกาะลอย อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี


          ในปัจจุบันปัญหาการเผาในที่โล่งทั้งในพื้นที่ป่าและพื้นที่การเกษตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ภาคตะวันออก จึงให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดังนั้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้เกษตรกรได้ตระหนักถึงผลกระทบจากการเผา และนำเสนอทางเลือกในการใช้เทคโนโลยีการเกษตรทดแทนการเผา สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง สำนักงานเกษตรจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานเกษตรอำเภอประจันตคาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมจัดงาน “รณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น และสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลอดการเผา” โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่เกษตร ปี 2564” โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 
          1. เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีและนำเสนอทางเลือกในการใช้เทคโนโลยีการเกษตรทดแทนการเผา ส่งเสริมให้เกษตรกรนำเอาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการเพิ่มผลผลิต
          2. เพื่อประชาสัมพันธ์ เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้เกษตรกรตระหนักถึงผลกระทบการเผา สร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของคน ในชุมชนในการทำเกษตรปลอดการเผา
          3. เพื่อสร้างเครือข่ายเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่เกษตร 


         จากข้อมูลดาวเทียมของ GISDA พบว่าในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี มีจุดความร้อนหรือ hotspot เกิดในพื้นที่ทางการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจุดความร้อนที่เกิดขึ้นกับพื้นที่การเพาะปลูกพืช ปรากฎว่าตรงกับพื้นที่การปลูกข้าวและอ้อย ซึ่งจากข้อมูลสถิติการเกษตรของจังหวัดปราจีนบุรี มีพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 400,000 ไร่ พื้นที่ปลูกอ้อยประมาณ 15,000 ไร่ ทั้งนี้ จากการสำรวจพื้นที่จุด hotspot ในพื้นที่นาข้าวปรากฎว่าเป็นพื้นที่ปลูกข้าวน้ำลึก ซึ่งผู้ประกอบการรถอัดฟางไม่นิยมอัดฟางในพื้นที่ โดยมีปัจจัยมาจากหลายสาเหตุ เช่น เครื่องจักรชำรุดง่าย ฟางมีลักษณะแข็ง ไม่นิยมนำไปทำอาหารสัตว์ และถึงแม้จะมีการอัดฟางแต่ยังมีส่วนของตอซังซึ่งล้มอยู่ในแปลงนาจำนวนมาก ทั้งนี้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวน้ำลึกจะเก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม และเตรียมดินเพื่อเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไปช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน โดยช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีน้ำในพื้นที่จึงนิยมใช้วิธีการเผาเพื่อกำจัดตอซัง มิฉะนั้นจะไม่สามารถไถแปลงนาได้

          การรณรงค์ลดการเผาในพื้นที่เกษตร เป็นการสร้างเสริมองค์ความรู้ และจิตสำนึกของเกษตรกรให้ตระหนักถึงความสำคัญของผลกระทบจากการเผาในพื้นที่เกษตร รวมถึงเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายเกษตรกร เพื่อให้สามารถลดปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรด้วยการใช้เทคโนโลยีทดแทนการเผา และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสามารถทำการเกษตรอย่างยั่งยืน มีจัดนิทรรศการมอบความรู้จากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จำนวน 5 สถานี ได้แก่ 
          1.  การแก้ปัญหาภัยพิบัติ โดย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี
          2. การทำปุ๋ยหมักจากเศษวัสดุการเกษตร โดย สถานีพัฒนาที่ดินปราจีนบุรี  
          3. การทำอาหารสัตว์จากเศษวัสดุทางการเกษตร โดย ปศุสัตว์จังหวัดปราจีนบุรี
          4. ผลกระทบของการเผาที่มีต่อสุขภาพ โดย สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี
          5. การเผชิญเหตุไฟป่า และมาตรการป้องกัน
โดย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี
           ทั้งนี้ได้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยเกษตรกรได้กล่าวคําสัตย์ปฏิญาณพร้อมกันว่า “ขอสัญญาว่า จะลด ละ เลิก การเผาตอซัง ฟางข้าว และเศษวัสดุ ทางการเกษตร เพื่อให้มีอากาศดี สุขภาพดี ดินดี สิ่งแวดล้อมดี และเกิดรายได้ที่ดีตลอดไป”
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สสก.3รย.​ เร่งขับเคลื่อน​จัดการผลผลิตและการตลาดสับปะรด

          วันที่ 15 มีนาคม​ 2564 กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต จัดประชุมการบริหารจัดการสับปะรดภาคตะวันออก ครั้งที่ 3/2564 ประกอบด้วย 4 จังหวั...